Words
1. Noun (คำนาม) ใช้เรียก ชื่อคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ แม้คำกริยาอาการ ที่ขึ้นต้นด้วย การ และ ความ
2. Pronoun (คำสรรพนาม) ใช้เรียกแทนคำนาม จะได้ไม่ต้องเอ่ยนามนั้นซ้ำอีก เช่น He She It
3. Adjective (คำคุณศัพท์, คุณนาม, คุณลักษณะ) คำขยายนาม ใช้ขยาย Noun กับ Pronoun เพื่อบรรยายให้เห็นลักษณะของ Noun กับ Pronoun ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยการบอกลักษณะ บอกปริมาณ และบอกจำนวน เป็นต้น เช่น
สูง, ต่ำ, ยาว, สั้น = บอกลักษณะทางกายภาพ
ดำ, ขาว, เขียว = บอกลักษณะการบอกสี
โง่, ฉลาด = บอกลักษณะด้านจิตใจ
การใช้ Adjective อยู่หน้า Noun เช่น Good man
อยู่หลัง Verb to be เช่น He is good.
4. Verb (คำกริยา) ใช้พร้อมกับ Tenses (เวลา) ใช้แสดงกริยาอาการต่างๆ บ่งบอกให้รู้ว่าประธานทำอะไร (Verb มี 3 ช่อง แต่ละช่องจะบอกเวลาเป็น อดีต ปัจจุบัน และอนาคต)
Verb ภาษาไทย ไม่มีการแบ่งช่อง ใช้คำอื่นบอกเวลา
Verb ภาษาอังกฤษ มี 3 ช่อง
ช่อง 1 = Present (ปัจจุบัน) : eat
ช่อง 2 = Past (อดีต) : ate
ช่อง 3 = Past Participle : eaten
การใช้ : ใช้ตามหลัง Verb to be และ Verb to have
การใช้เป็น Adjective ก็ได้ เช่น Used car
Future (อนาคต) ใช้ will หรือ shall
5. Adverb (คำวิเศษณ์ หรือ คำขยายกริยา) คำขยายกริยา เพื่อเพิ่มความหมายให้กับคำกริยาที่ถูกขยาย บอกให้รู้ว่าประธานทำอย่างไร เมื่อไร ที่ไหน (ส่วนมาก Adverb จะลงท้ายด้วย -ly)
6. Preposition (คำบุพบท) ใช้เชื่อมระหว่างคำ เพื่อบอกเวลา สถานที่ และทิศทาง ทำให้ประโยคสมบูรณ์ เช่น in, on, at, ดัวอย่างเช่น She stay in her house.
7. Conjunction (คำสันธาน) ใช้เชื่อมประโยค มีทั้งแบบคล้อยตาม ขัดแย้ง และเป็นเหตุเป็นผล เช่น and, or, but ตัวอย่างเช่น She and I are students.
8. Interjection (คำอุทาน) ใช้แสดงความรู้สึกหรืออารมณ์ต่างๆ เช่น Well, Wow, Oh
ข้อควรจำ
1.การใช้ Pronoun กับ์ Noun
ถ้าใช้ Pronoun แล้ว Noun ไม่ต้องใช้ เพราะ Pronoun มีสิทธิทุกอย่างเหมือนกับ Noun
2.เปรียบเทียบภาษาไทยกับภาษาอังกฤษ
ภาษาไทย Adjective เรียงหลัง Noun เช่น บ้านสีเขียว
ภาษาอังกฤษ Adjective เรียงหน้า Noun เช่น Green House.
Wiparat Thanomnark
2561051542301